ศิลปะอันไร้ขอบเขต ทำให้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ได้มีพื้นที่ในการทำงานอย่างเต็มที่ การตวัดเส้นในการวาดมีน้ำหนักและอิสระมากขึ้น การผสมสีบนผืนกระดาษทำหน้าที่แทนจานผสมสี และการขึ้นโครงปั้นรูปลอยตัวที่ไร้รูปทรงที่แท้จริง และแม้ว่าอิสระแห่งศิลป์นี้จะไปได้ไกลเท่าไหนก็ตาม มันก็ไปได้มากเท่ากับศักยภาพของศิลปินนั้นๆ เอง แต่ไม่ว่ามันจะมากหรือน้อยก็ตาม มันก็จะถูกปั้นสรรสร้างขึ้นมาจากความตั้งใจและด้วยศักยภาพที่เต็มที่แห่งการทุ่มเทในการสร้างผลงานนั้นๆ ขึ้นมา
การตั้งโจทย์ที่มีโครงสร้างเป็นพื้นฐาน เป็นเรื่องที่แอบยากและง่ายในเวลาเดียวกัน ยากเพราะถูกขึ้นโครงที่ล็อคบางอย่างไว้แล้ว แต่ก็ง่ายเพราะมีโครงและสามารถต่อเติมตามใจชอบได้ แต่ถึงอย่างไรก็ดีมันคือการตั้งโจทย์ที่น่าสนุกและท้าทายให้กับเหล่าเด็กๆ ที่เคยมาฝึกงานกับผม ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาหลายรุ่น เด็กฝึกงานหลายคนต่างจะได้รับ side project ที่ต้องทำเพื่อเป็นการฝึกฝนฝีมือ, ทำความเข้าใจและความคุ้นชินกับการใช้โปรแกรม, และเป็นหนึ่งในผลงานของตัวเองที่สามารถนำไปโชว์ได้อย่างภาคภูมิใจ
การนำ footage ตัวละครน้อง "แจ๊ค" (Jack Woody Mercer) บนพื้น green screen มาใช้งานไม่ใช่เป็นเรื่องยาก แต่ความยากนั้นอาจอยู่ที่การร้อยเรียงเรื่องราวขึ้นมาใหม่ และใช้ทักษะที่มีต่อยอดจากจินตนาการที่ไร้ขอบเขตคิดค้นขึ้นมา การเริ่มต้นของเด็กเหล่านี้จึงเริ่มขึ้น ซึ่ง footage เหล่านี้เดิมถูกถ่ายทำขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์การใช้งานในการทดลองทำ VFX และใช้ในการประกอบในโครงการประกวด "NPS FX Contest ครั้งที่ 3 " เมื่อปี 2020 ในหัวข้อ "Green Screen Composite" เมื่อการระบาดของโรคโควิตทำหลายๆ คนกร่อยและซึมไปเลย จึงทำให้ผมอยากที่จะจัดงานโครงการประกวดเล็กๆ นี้ขึ้นมา เพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนไม่ให้เยาวชนชาว VFX ว่างจัดจนเกินไป (ฮ่าๆ) และเพื่อเป็นกิจกรรมที่สนุกและสร้างสรรค์ผลงานดีๆ และเสริมสร้างทักษะในการทำผลงานศิลปะชิ้นหนึ่งออกมา ซึ่งหลังจากนั้น footage เหล่านี้ยังคงถูกใช้เป็นกรณีศึกษาในหลายสถาบันการศึกษาที่ผมได้สอน เพื่อให้ผู้เรียนได้เห็นและเข้าใจถึงการทำงานด้านการ key ที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ จนกระทั่งได้ตกทอดมาเรื่อยๆ สู่เด็กฝึกงานรุ่นต่อๆ มา เพื่อเป็นโรงยิมในการเพาะกายและฝึกฝนทักษะของตัวเองเพื่อเตรียมตัวให้พรักพร้อมในการออกรบในสนามจริงในโลกแห่งความท้าทายกับลูกค้า (ฮ่าๆ) เพราะมิใช่เพียงการสร้างผลงานที่สุดล้ำจินตนาการของพวกเขาเท่านั้น แต่มันคือการปั้นทักษะการใช้งานโปรแกรมและเป็นตัววัดระดับความรู้ในการใช้โปรแกรมอีกด้วย
(ผลงานของน้องๆ ที่ส่งเข้ามาร่วมกิจกรรมโครงการประกวด "NPS FX Contest ครั้งที่ 3")
โดย footage เหล่านี้มีความหลากหลายในมุมกล้อง, ระยะช่วง และอิริยาบทของตัวละครที่แตกต่างกันไป แต่ไปในทิศทางเดียวกันมากพอที่จะปะติดปะต่อเรื่องราวในจินตนาการของตัวมันได้ และนี่คือสิ่งที่น่าสนใจและน่าค้นหา ในการที่ผมได้มองดูจุดกำเนิดของไอเดียของเยาวชนเหล่านี้ในการนำภาพนามธรรมในหัวของพวกเขา ออกมาเป็นภาพรูปธรรมในจอ 4 เหลี่ยม สิ่งนี้ทำให้ผมได้เห็นและมีประสบการณ์ร่วมไปกับเส้นทางที่น่าตื่นเต้นและน่าประทับใจในเวลาเดียวกัน ที่ได้เห็นเยาวชนไทยรุ่นเยาว์ได้ค่อยๆ ก้าวเข้ามาสู่โลกแห่งการสร้างภาพมายาที่เรียกกันว่า VFX และไม่ว่าผลงานท้ายที่สุดนั้นจะออกมาดีหรือไม่ดีอย่างไร แต่นั่นก็คือพื้นที่อันไม่มีที่สิ้นสุดให้กับพวกเขาได้ละเลงสีตามที่ใจพวกเขาต้องการ มันคืออิสระที่ฝึกฝนและสอนทักษะแห่งการเรียนรู้ให้กับตัวของพวกเขาเอง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของก้าวเล็กๆ ในอีกด้านหนึ่งของพวกเขา ที่อาจนำไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตก็อาจเป็นได้ แม้ว่าจะไม่ใช่ในด้านทางการงานอาชีพ แต่มันอาจเป็นประสบการณ์แห่งความภาคภูมิใจที่จะส่งเสริมคุณลักษณะแห่งจินตนาการของเขาเองไปอีกขั้นหนึ่ง
(ภาพ footage วัตถุดิบที่ถ่ายทำมา)
ความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละผลงานในแต่ละคนนั้น ต่างมีความหลากหลายและแตกต่างเป็นแน่ และแม้ว่าบางผลงานจะดูดีกว่า หรือสวยกว่า หรือเสมือนจริงกว่า หรือเกรียนกว่า...มันก็คือเอกลักษณ์ของมันเองที่จะไม่มีใครเหมือน และมันได้แสดงให้เห็นถึงการลงทุนลงแรงในการทำสิ่งเหล่านี้ ซึ่งอาจมีเพียงโปรเจคเหล่านี้เท่านั้นที่พวกเขาจะสามารถถ่ายทอดสิ่งที่อยากเห็นให้ออกมาได้ตามที่ตั้งใจไว้ และแม้ว่ามันจะไม่เคยเป็นเส้นทางที่เรียบง่ายเพียงแค่กระดิกนิ้วเท่านั้น แต่ผลลัพท์ที่ออกมานั้นย่อมสร้างความประทับใจให้กับพวกเขาและผมได้อยู่เสมอ เพราะผลงานเหล่านี้จะเป็นตัวย้ำเตือนให้กับพวกเขาได้อยู่เสมอว่า "เขาก้าวมาไกลมากเท่าไหนแล้วจากจุดเริ่มต้น"
(ตัวอย่างผลงานชิ้นโบว์แดงของน้องๆ นักศึกษาในขณะการฝึกงานที่ NPS)
และนั่นคือสิ่งที่ผมมองเห็นและสะท้อนกลับมามองที่ตัวเองอยู่เสมอในทุกครั้งที่ผมกลับไปดูผลงานเก่าๆ ของตัวเอง ข้อผิดพลาด, จุดบกพร่อง, สิ่งที่อยากจะแก้ไข ล้วนผุดขึ้นมาอยู่เสมอ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เราได้รู้ตัวอยู่เสมอถึงการที่เราต้องไม่หยุดที่จะพัฒนา และพร้อมที่จะเผชิญโจทย์ยากๆ ใหม่ๆ ในอนาคต ไม่ว่าจะอยู่ในการควบคุมของเราหรือไม่ เราก็ต้องเรียนรู้ที่รับมือกับมันและผลักดันศักยภาพของเราไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะไม่มีคำว่า "สิ้นสุด" ก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ใช่เป้าหมายที่เราพยายามไปให้ถึง เพราะเราต่างรู้ดีอยู่แล้วว่า เป้าหมายที่แท้จริง คือการที่เราได้ทุ่มเทและใช้สิ่งที่เรามีอยู่นั้น ในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ออกมาให้กับโลกใบนี้ หาใช่แต่เพื่อผลประโยชน์ของเราเองไม่ แม้การพัฒนาทักษะของเราจะติดตรึงอยู่กับเราไปตลอด แต่มันอาจถึงเวลาบ้างแล้วที่เราจะเอื้อเฟื้อและถ่ายทอดสิ่งดีๆ เหล่านี้กลับไปสู่สังคมที่สร้างตัวตนของเราในวันนี้ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมเราต่างทำได้ นั่นจึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ผมมีความสุขในการได้สอนและแบ่งปันแหล่งความรู้เหล่านี้ในตัวของผมผ่านประสบการณ์หลายปี เพื่อมอบให้กับผู้คนอีกมากมายที่กำลังควานหาโอกาสแห่งการเรียนรู้ในสิ่งเหล่านี้
นี่อาจเป็นแรงผลักดันอันยิ่งใหญ่ที่อาจช่วยขับเคลื่อนบางคนที่กำลังแสวงหาตัวตนของตัวเอง หรืออยากพัฒนาตัวเองอยู่ก็ได้ เพราะเคล็ดลับที่แท้จริงแล้ว...อาจไม่มีเคล็ดลับเลยก็ได้ แต่มันเป็นเพียงแค่สิ่งที่สามัญและใครๆ ก็ต่างพูดกันเป็นพันรอบ แต่จะมีสักกี่ครั้งที่สิ่งเหล่านี้จะตอกย้ำเตือนให้เราได้รู้และตระหนักถึงสิ่งนี้ได้สักที เพราะแท้จริงแล้ว สิ่งที่เรากำลังแสวงหาอาจเป็นสิ่งที่เรามองข้ามไปก็ได้..หรืออาจเป็นสิ่งที่เรากำลังทำอยู่แล้วก็ได้...ไม่ว่าเรากำลังอยู่ในจุดไหนของชีวิตก็ตาม "บทเรียน" นี้ก็มีความสำคัญมากพอเมื่อเรานำมันไปประยุกต์ใช้กับทุกๆ อย่างในชีวิต ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องการทำ VFX แต่มันคือวินัยที่เราควรที่จะใส่ใจและพัฒนามันไปเรื่อยๆ นั่นคือการทำงานให้เต็มที่และสุดฝีมือของเรา เพราะเรามิอาจรู้ได้ว่า ประตูบานนี้อาจนำเราไปสู่เส้นทางที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตก็เป็นไปได้
*คลิกดูผลงานของน้องๆ ได้ในลิ้งด้านล่างนี้
Comments